วันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2551

The Notebooks&Drawings of Louis I Kahn

From..the notebooks and drawings of Louis I. Kahn
Edited and Designed by
Richard Saul Wurman and Eugene Feldman,1962

Natural light...แสงธรรมชาติ

ที่ว่าง..จะปราศจากคุณค่าในแง่สถานที่ทางสถาปัตยกรรม หากไม่มีแสงธรรมชาติสาดส่อง ส่วนแสงประดิษฐ์นั้้้น เป็นแค่เพียงแสงสว่างในยามค่ำคืนที่สาดมาจากโคมไฟที่ติดตั้งไว้ในตำแหน่งถาวร เปรียบเทียบไม่ได้เลยกับแสงธรรมชาติที่แปรเปลี่ยนอยู่ตลอดวัน

สถานที่..ทางเข้า ช่องทางเดิน แตกแขนงมาจากการกระจายตัวของแสง ทางเข้าที่คุ้นเคย เกิดได้กับที่ว่างที่มีีองค์ประกอบของรูปทรงสัมพันธ์เป็นสถาปัตยกรรมอันอิสระ ที่ว่างทางสถาปัตยกรรมนี้ สำคัญเที่ยบเท่าที่ว่างหลัก แม้ว่าที่ว่างเหล่านี้จะถูกออกแบบเพียงแค่ทางผ่าน แต่ก็ต้องออกแบบให้ได้แสงธรรมชาติอย่างทั่วถึง


สถาปัตยกรรมของความเกี่ยวพันกันเช่นนี้ จะไม่ปรากฏในโปรแกรมความต้องการเรื่องพื้นที่ ซึ่งสถาปนิกนำเสนอต่อลูกค้า หรือแม้ขณะค้นหาความเหมาะสมอื่นทางการใช้สอยสถาปัตยกรรม หรือแม้ขณะกำลังกำหนดทิศทางการออกแบบก็ตาม

ลูกค้าถามหาพื้นที่ ในขณะที่สถาปนิกต้องเสนอคำตอบของที่ว่าง
ลูกค้าคิดถึงทางเดินผ่านอยู่ในใจ สถาปนิกต้องค้นหาเหตุผลเพื่อให้เป็นซุ้มทางเดินที่น่าสนใจใคร่อยากเดิน
ลูกค้าให้งบประมาณ สถาปนิกต้องตอบสนองด้วยความเหมาะสมหรือคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ
ลูกค้าพูดถึงห้องแรกรับ สถาปนิกต้องเพิ่มคุณค่าห้องทางเข้านี้ให้เป็นสถานที่ทรงอำนาจและมีความสง่างาม

สถาปัตยกรรมนั้้น เกี่ยวข้องกับที่ว่าง ซึ่งเกิดจากความช่างคิดและมีความหมาย ที่ว่างทางสถาปัตยกรรม เป็นที่ซึ่งโครงสร้างปรากฏให้เห็นในที่ว่างนั้นด้วยตัวของมันเอง โครงสร้างช่วงกว้างแม้เป็นความพยายามอย่างยิ่งยวดก็ไม่ควรขัดขวางการแบ่งกั้นภายใน ศิลปะทางสถาปัตยกรรมเกิดขึ้นจากตัวอย่างของที่ว่างซ้อนทับกันในที่ว่างด้วยกัน โดยปราศจากการเสแสร้งหลอกลวง แต่สำหรับกำแพงที่แบ่งกั้นที่ว่างใต้หลังคาโดม จะทำลายจิตวิญญานของความเป็นโดม เพราะโครงสร้างโดมที่ออกแบบนั้น ถูกกำหนดโดยแสงที่สาดส่องภายใน จากช่องโค้งใต้คาน ทรงกลมของโดมและเสารองรับรวมตัวกันเป็นโครงสร้างที่สอดคล้องกับลักษณะของการรับแสงธรรมชาติ

แสงธรรมชาติสนองให้เกิดอารมณ์ของที่ว่างด้วยความละมุนของลำแสงที่ผันแปรเปลี่ยนในแต่ละช่วงเวลาของวัน แต่ละช่วงฤดูของปี อันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคุณลักษณะของที่ว่างตลอดเวลาในที่สุด

About..The realm of Architecture

วันหนึ่ง..ขณะที่ยังเป็นเด็ก ข้าพเจ้ากำลังลอกภาพวาดของนโปเลียน ตาข้างซ้ายของนโปเลียนในภาพสร้างความลำบากให้มากๆ ข้าพเจ้าต้องลบออกแล้วเขียนใหม่อยู่หลายครั้งก็ย้งไมเป็นที่่พอใจสักที ทันใดนั้นเอง บิดาข้าพเจ้าโน้มตัวลงช่วยเขียนแก้ไขให้ด้วยความสงสาร หลังจากนั้น ข้าพเจ้าก็ขยำภาพวาดนั้นขว้างทิ้งไปกลางห้องพร้อมกับดินสอทันที กับตะโกนตามไปว่า "นี่..ไม่ใช่ภาพวาดของข้าพเจ้าอีกต่อไปแล้ว..ไม่ใช่อีกแล้ว" เพราะ คนสองคนไม่สามารถร่วมเขียนภาพเดียวกันได้เด็ดขาด และ ข้าพเจ้าเชื่อว่าคนที่มีความชำนาญในการลอกเลียนภาพวาดควรได้รับการตรวจสอบแก้ไขจากศิลปินเจ้าของภาพต้นฉบับเองเท่านั้น



ความอิ่มเอิบใจอย่างแท้จริงอันเกิดมาจากการเขียนภาพ มีลักษณะและคุณภาพเฉพาะในตัวของมันเอง ซึ่งผู้ลอกเลียนไม่สามารถเลียนแบบได้เลย นามธรรมเฉพาะตนกับ ความสอดคล้องระหว่างเรื่องราวและความคิด ก็ไม่สามารถลอกเลียนกันได้เช่นเดียวกัน

Albi ที่ปรากฏให้เห็นอยู่ปัจจุบัน ข้าพจ้ารู้สึกถึงความเชื่อในการเลือกเฟ้นองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมของมัน พร้อมกับความปิติและตื่นตาตื่นใจหลอมรวมกันขึ้นในตอนเริ่มต้นของการทำงานจวบจนกระทั่งงานนั้นเสร็จสิ้น ข้าพจ้าเขียนรูปของ St.Cecile Cathedral, Albi จากส่วนล่างขึ้นไปยังส่วนบน ราวกับว่าข้าพเจ้ากำลังก่อสร้างมัน ข้าพเจ้ารู้สึกอิ่มเอิบใจจริงๆ แม้ความอดทนในการก่อสร้างไม่มีใครพึงต้องการ แต่ข้าพเจ้าก็วาดมันโดยไม่รู้สึกเบื่อหน่ายทั้งๆที่ต้องคอยแก้ไขสัดส่วนเพื่อความถูกต้องเลย เพราะข้าพเจ้าต้องการค้นหาเพื่อสัมผัสความตื่นเต้นที่เกิดขึ้นในใจของสถาปนิกขณะนั้น

เสมอเหมือนการจดบันทึกทางดนตรี ที่เป็นการแสดงออกของโครงสร้างและท่วงทำนองเพื่อการได้ยิน แบบแปลนคือการให้คะแนน หรือการเขียนเพลงสำหรับเครื่องเล่นเฉพาะ เปิดเผยโครงสร้างและองค์ประกอบของที่ว่างท่ามกลางแสงธรรมชาติ แบบแปลนสะท้อนข้อจำกัดของรูปทรงทางสถาปัตยกรรม ในขณะที่รูปทรงเป็นความคล้องจองกันของระบบ เป็นตัวขับเคลื่อนในการออกแบบทางเลือก แบบแปลนจึงเป็นการเผยอุบัติกาลของรูปทรงทางสถาปัตยกรรม

สำหรับสถาปนิกแล้วสรรพสิ่งในโลกปรากฏอยู่ในบริบทหรืออาณาจักรของสถาปัตยกรรม เมื่อเขาเดินผ่านต้นไม้เขาไม่ได้เห็นในบทของนักพฤษศาสตร์ แต่เห็นในแง่ความสัมพันธ์กับตัวตนของเขา เขาวาดภาพต้นไม้ในลักษณะที่เขาจินตนาการว่ามันกำลังงอกงาม เพราะเขาคิดถึงการเจริญเติบโตของมัน ทุกๆกิจกรรมของมนุษย์เกี่ยวข้องกับโลกเป็นตัวตนของเขาแต่ละคน มีการเชื่อมโยงกิจกรรมของคนอื่นๆกับกิจกรรมเฉพาะของตนเอง

สองสามปีมาแล้ว ตอนที่ข้าพเจ้าไปเที่ยว Careassonne ชั่วขณะที่เดินผ่านประตูทางเข้า ข้าพเจ้าเริ่มเขียนบันทึกด้วยการวาดภาพ เพราะจากจินตภาพ จะทำให้ข้าพเจ้าได้เรียนรู้จากความฝันที่เป็นจริงต่อมา เพราะข้าพเจ้าเริ่มศึกษาจากความทรงจำนี้ในเรื่องเส้นสาย สัดส่วนและรายละเอียดที่มีชีวิตชีวาของอาคารยิ่งใหญ่เหล่านั้น ข้าพเจ้าใช้เวลาแทบทั้งวันอยู่ที่บริเวณลานโล่งตรงกลาง ตามแนวป้อมกำแพงป้องกันภัยโดยรอบและตามหอคอยต่างๆ โดยไม่ใส่ใจเรื่องสัดส่วนที่เหมาะสมและเรื่องรายละเอียดที่ชัดเจนนัก ขณะใกล้หมดวัน ข้าพเจ้าจึงลองกำหนดรูปร่างและการจัดวางอาคารต่างๆขึ้นมาใหม่ในความสัมพันธ์ที่แตกต่างจากของเดิม

พวกบรรณาธิการของนิตยสารทั้งหลาย มักเลือกเอาภาพร่างในสองสามโครงการณ์ เลือกทุกอันที่ให้อารมณ์และมีพัฒนาการแทนที่จะคัดเอาแต่เพียงแบบของโครงการณ์ใหญ่ๆ การเลือกทำนองนี้ทำให้สถาปนิกใหม่เหมือนนักเขียนหรือจิตกรกับกระดาษที่ว่างเปล่า ซึ่งเขาสามารถบันทึกทุกขั้นตอนในการพัฒนาหรือปรับปรุงในสิ่งที่เขาต้องการทำให้เกิดขึ้น

สมุดวาดภาพของจิตกร นักปฏิมากร หรือสถาปนิก ควรมีความแตกต่างกัน จิตกรร่างภาพเพื่อวาด ปฏิมากรร่างภาพเพื่อปั้น ส่วนสถาปนิกเขียนแบบหรือวาดภาพเพื่อการก่อสร้างมันในที่สุด
About...the Pantheon

อ้างถึงอาคาร Pantheon ในกรุงโรม ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งอาคารที่ยิ่งใหญ่ ความยิ่งใหญ่มีหลายแง่มุม แง่หนึ่งมันเป็นสิ่งสะท้อนของความเชื่อแลความเห็นที่มั่นคงบนอาคารเพื่ออุทิศให้กับศาสนาและที่ว่างทางพิธีกรรมที่อิสระ สะท้อนความรู้สึกออกมาอย่างชัดเจน มันนำเสนอความเชื่อของผู้นำที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งในการออกแบบทีว่างแบบโดมที่ไร้ทิศทาง ราวกับว่าสถาปัตยกรรมถูกแสดงออกเป็นโลกที่ซ้อนอยู่ในโลกใบใหญ่ของเรา มันสะท้อนออกมาได้อย่างดี ด้วยการปรับแต่งอย่างประนีตในรูปช่องแสงกลมหนึ่งเดียวตรงกลางบนสุดของโดม อาคารนี้ไม่มีต้นแบบ สิ่งเร้าของมันชัดเจนและเต็มเปี่ยมด้วยความเชื่อและพลังของ "ความต้องการเป็น" ให้แรงบันดาลใจในการออกแบบเท่าๆกับแรงปรารถนาในรูปทรงของมัน

ทุกวันนี้ อาคารต้องการบรรยากาศของความเชื่อจากสถาปนิกในงานออกแบบ ความเชื่อสามารถเกิดจากความตระหนักที่ว่า สถาบันใหม่ๆต้องการที่จะเกิดขึ้นและแสดงออกมาให้เห็นได้ในรูปที่ว่าง ความเชื่อใหม่ๆมาพร้อมความเป็นสถาบันใหม่ๆที่ต้องการแสดงออกถึงที่ว่างใหม่และความสัมพันธ์ใหม่ๆ ความรู้แจ้งในสถาปัตยกรรมแสดงออกในแง่ความเป็นสถาบันที่มีรูปทรงเฉพาะเป็นพิเศษเป็นต้นแบบใหม่ เป็นการเริ่มต้นใหม่ ข้าพเจ้าเชื่อว่าความงามสามารถสร้างสรรค์ได้อย่างอิสระและเสรี ความงามก่อเกิดออกมาจากความประสงค์ที่ต้องการจะเป็น ซึ่งอาจเกิดจากการแสดงออกมาครั้งแรกๆในลักษณะโบราณสุดๆ เปรียบเทียบกันได้ระหว่าง Paestum กับ Parthenon ความโบราณของ Paestum เป็นการเริ่มต้น มันเป็นช่วงเวลาเมื่อกำแพงผ่านเลยไป และเสากลายเป็นเสมือนดนตรีเข้ามาบรรเลงในงานสถาปัตยกรรม


Paestumให้แรงบันดาลใจแก่ Parthenon ซี่งได้รับการพิจารณาว่ามีความสวยงามกว่า แม้ว่า Paestum ยังคงความสวยงามสำหรับข้าพเจ้าอยู่ก็ตาม เพราะมันนำเสนอการริเริ่มในสิ่งที่รวมความประหลาดใจเข้าไว้ และตามด้วยความตื่นตัวอยู่เสมอ องค์ประกอบใหม่ของเสา เป็นเสมือนตัวจังหวะของการปิดล้อมและเปิดของที่ว่างให้ความรู้สึกของการเข้าถึงที่ว่างนั้นๆ มันเป็นเสมือนที่เก็บจิตวิญญาณของสถาปัตยกรรม หรือความเชื่อในศาสนาซึ่งมีอิทธิพลกับสถาปัตยกรรมของเราในปัจจุบัน
About..Structure of Building

ในยุคโกธิค สถาปัตยกรรมสร้างด้วยหินก้อนตัน ปัจจุบันสถาปนิกสามารถสร้างมันด้วยหินก้อนกลวง ที่ว่างโดนกำหนดด้วยองค์ประกอบของโครงสร้างที่แต่ละชิ้นส่วนมีความสำคัญเท่าเทียมกัน ขนาดของที่ว่างไล่เรียงเริ่มจากช่องว่างทีปิดทับด้วยแผ่นฉนวน ช่องอากาศเพื่อให้แสงสว่าง และความร้อนพัดผ่าน จนมีขนาดช่องว่างที่ใหญ่ขึ้นพอให้คนเดินผ่านหรือพักอาศัยได้ แรงปรารถนาที่แสดงออกมาของช่องว่าง เกิดจากการออกแบบโครงสร้างบนพื้นฐานความสนใจที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และการทำงานที่มีพัฒนาการจนนำไปสู่โครงสร้างชนิดประสานกัน รูปทรงที่ถูกนำมาใช้ทดลองมาจากความรู้ที่ใกล้ชิดธรรมชาติและมาจากการคิดค้นบนหลักการที่ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น


การออกแบบจนกลายเป็นนิสัยนำไปสู่การปกปิดโครงสร้างจนไม่มีที่สำหรับอ้างถึงกฏเกณฑ์อีกต่อไป นิสัยเช่นนี้ทำให้พัฒนาการของศิลปะกลายเป็นเรื่องปัญญาอ่อน ข้าพเจ้าเชื่อว่าสถาปัตยกรรมเหมือนศิลปะทั้งหลายทั้งปวง ศิลปินมักใช้สัณชาตญาณเป็นการรักษาไว้ถึงร่องรอยซึ่งจะบ่งบอกว่ามันถูกสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างไร


ในความรู้สึกของข้าพเจ้า สถาปัตยกรรมปัจจุบันกลับต้องการการแต่งเติมให้มีส่วนส่งเสริมความพอใจของเราเพื่อการมองเห็น จนปิดบังขบวนการรวมตัวของชิ้นส่วนต่างๆเข้าด้วยกัน โครงสร้างมักถูกแบ่งแยกไว้เพื่อสนองงานระบบที่จำเป็นสำหรับห้องหรือที่ว่างต่างๆ เพดานมักปิดซ่อนโครงสร้างให้ลดขนาดหรือสัดส่วนลงไป ถ้าเราฝึกให้เขียนแบบเหมือนว่าเรากำลังก่อสร้างจากส่วนล่างขึ้นไปยังส่วนบน ในตำแหน่งเมื่อเราหยุดดินสอเขียนมันจะกลายเป็นเครื่องหมายของจุดต่อเชื่อมการก่อสร้าง ส่วนประดับตกแต่งก็จะเกิดขึ้นตรงนี้บ่งแสดงออกถึงกรรมวิธีการสร้าง และยังมีความจำเป็นต้องปิดซ่อนที่มาของแสงสว่างและท่ออุปกรณ์ต่างๆที่ไม่พึงประสงค์ของงานระบบที่ปะไว้กับโครงสร้าง ดังนั้น ความรู้สึกถึงโครสร้างและที่ว่างเพื่อตอบสนองกันอย่างไรก็พลอยสูญหายไปด้วย แรงปรารถนาเพื่อแสดงออกว่ามันถูกทำขึ้นมาได้อย่างไรมักโดนบดบังผ่านกระบวนการก่อสร้าง ผ่านต่อถึงสถาปนิก วิศวกร ช่างก่อสร้าง และช่างศิลป์ทั้งหลายAbout..Beginning

เริ่มกันในยุคของความเชื่อเรื่องรูปทรง


การออกแบบ...เป็นเครื่องชี้ชัดสนองความเชื่อเรื่องดังกล่าว


การก่อสร้าง... คือกิจกรรมที่เกิดจากการกำหนดระบบและกฏเกณฑ์
แต่เมื่องานเสร็จสิ้นลง จุดเริ่มต้นควรสามารถหวลรำลึกถึงได้


รูปทรง..คือการประจักษ์แจ้งในรูปลักษณ์ที่ไม่สามารถแบ่งแยกออกจากกันได้ต่อไป รูปทรงซึ่งไม่ใช่วัสดุ รูปร่างหรือสัดส่วนที่ปรากฏให้เห็นอีกต่อไป


การออกแบบแต่ละครั้ง คือการจุดประกายแต่ละทีที่อุบัติออกมาจากรูปทรงมันเกี่ยวข้องกับวัสดุ รูปร่างและสัดส่วน เป็นการยากที่จะกล่าวถึงงานเมื่อมันเสร็จแล้ว เพราะท่านจะรู้สึกอยู่เสมอว่ามันคงยังไม่เสร็จสักที


ข้าพเจ้าเรียกการเริ่มต้น คือความเชื่อมั่น เป็นเวลาที่การประจักษ์แจ้งของรูปทรงเกิดขึ้น เป็นความรู้สึกเหมือนเรื่องของศาสนาและความคิดเชิงปรัชญา ซึ่งไม่ใช่เรื่องราวของวัสดุ รูปร่างและสัดส่วนในที่สุด และแล้วข้าพเจ้าก็หวลระลึกถึงการผจญภัยในการออกแบบ เมื่อความฝันกลายเป็นแรงบันดาลใจ


รูปทรงต้องสนองตอบระเบียบและกฏเกณฑ์ที่มันเป็น คนๆหนึ่งควรรู้สึกถึงงานคนอื่นเสมือนเป็นการจุดประกายการก้าวล่วง ในความอิ่มใจของความเป็นสามัญธรรมดาและในความเชื่อ
About..Richard Medical Research Buildingตึกปฏิบัติการค้นคว้าในมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียที่ข้าพเจ้าออกแบบ เป็นที่รวมความรู้แจ้งในแง่ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ควรมีคุณค่าเสมือนห้องเขียนภาพ และอากาศที่หายใจต้องแยกอากาศปนเปื้อนและอากาศเสียออกจากกันโดยสิ้นเชิง โดยทั่วๆไปแบบแปลนของห้องปฏิบัติการณ์มักวางที่ว่างทำงานข้างทางเดินตรงกลาง อีกด้านเป็นที่ว่างสำหรับบันได ลิฟท์ ห้องขังสัตว์ทดลอง ท่อและงานระบบอื่นๆ แปลนแบบนี้ทำให้ตรงบริเวณทางเดินดังกล่าว มีอากาศที่หายใจผสมปนเปกับอากาศเสียที่เกิดจากการทดลองจนเป็นอากาศพิษได้ ความแตกต่างสำหรับที่ว่างในการทำงานของแต่ละคนแบ่งแยกด้วยจำนวนประตูเท่านั้น แต่สำหรับมหาวิทยาลัยนี้ ข้าพเจ้าออกแบบเป็นลักษณะห้องปฏิบัติการรวมสามชุดคนทำงานแต่ละคนทำงานในส่วนจัดแบ่งเป็นส่วนๆของแต่ละคน แต่ละห้องปฏิบัติการรวมมีปล่องระบายอากาศเสียแยกย่อยในแต่ละกรณี


อาคารหลักศูนย์กลางล้อมด้วยปล่องลักษณะหอคอยสามปล่องเพื่องานระบบท่อต่างๆ ซึ่งในระบบแปลนเดิมๆจะอยู่อีกด้านของทางเดินตรงข้ามส่วนเป็นห้องทำงาน และตรงอาคารหลักนี้ยังมีปล่องระบายอากาศย่อยที่ใช้รับอากาศดีจากภายนอกเพื่อการระบบายอากาศภายในอาคาร โดยอยู่ในระยะไกลจากปล่องระบายอากาศเสียอื่นๆ การออกแบบทำนองนี้เน้นการแยกที่ว่างใช้สอยและส่วนสนับสนุนที่ต้องการอันเป็นลักษณะที่แสดงออกถึงห้องปฏิบัติการค้นคว้าทดลองอย่างเด่นชัด
จากที่กล่าวมานี้ ข้าพเจ้าไม่ได้หมายถึงการวางระบบการคิดและทำงานเพื่อชี้นำรูปทรง เพื่อนำไปสู่การออกแบบ แต่การออกแบบควรทำให้เกิดการรู้แจ้งของรูปทรง ในระหว่างสองสิ่งนี้ เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นอย่างแน่นอนของงานสถาปัตยกรรม

ข้าพเจ้าไม่ชอบท่อ ไม่ชอบรางวางสายอุปกรณ์ต่างๆ ข้าพเจ้าเกลียดมันทั้งนั้น เพราะเกลียดสิ่งเหล่านี้จริงๆ ข้าพเจ้าเลยรูสึกว่าต้องหาที่ทางให้สิ่งเหล่านี้ หากเพียงแต่เกลียดแล้วไม่ใส่ใจ สิ่งพวกนี้ก็จะรุกรานและทำลายอาคารในที่สุด ข้าพเจ้าต้องการแก้ไขในกรณีที่ท่านอาจเข้าใจว่าข้าพเจ้าชอบสิ่งพวกนี้

About...Richard Medical Research Building...again

วันหนึ่งระหว่างที่กำลังรอเพื่อน ข้าพเจ้าสังเกตุเห็นเครื่องยกกำลังทำงานยกชิ้นส่วนหนักๆของตึกปฏิบัติการณ์ในบริเวณมหาวิทยาลัย วันก่อนๆที่เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของเจ้าตัวสีแดงนี้ซึ่งมีขนาดใหญ่เกินอาคารและชิ้นส่วนที่มันกำลังยกวางเข้าที่ มันมีภาพปรากฎเสมอในทุกความก้าวหน้าของการก่อสร้างที่ข้าพเจ้าเฝ้าดู
สะท้อนให้ข้าพเจ้ารู้ว่าการออกแบบต้องถูกบังคับโดยความสามารถของเครื่องยกนี้ ข้าพเจ้าคิดว่าช่วงเสาราวสองสามร้อยฟุตมีช่วงพาดกว้างมากทีเดียว ลักษณะของเสากลายสภาพเป็นที่รวมของห้องบริการ มีชิ้นส่วนประกอบเข้าด้วยกันเห็นรอยต่อและส่วนเชื่อมติดกันในแต่ละชิ้นอย่างน่าสนใจ จริงๆแล้วรอยต่อของชิ้นส่วนเหล่านี้เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนจากระยะไกล มันสะท้อนให้ข้าพเจ้าพบว่านี่คือส่วนตกแต่งอาคารนั่นเอง


ตรงนี้รูปทรงของเสาถูกออกแบบให้สนับสนุนที่ว่างขนาดใหญ่ เพราะว่าชิ้นส่วนเหล่านี้ใหญ่เกินไปมีน้ำหนักเกินกว่าน้ำหนักของเครื่องยก ข้าพเจ้าคิดว่ามันต้องการเครื่องยกที่ใหญ่กว่านี้จนลืมเรื่องอื่นๆ ขณะนี้รอยต่อต้องการเน้นโดยการอุดรอย ในระดับเดียวกันกับที่เสาถูกบุครอบด้วยแผ่นหินอ่อน


ชิ้นส่วนกลายเป็นเส้นเลือดมีกำลังที่ผสมผสานแสดงออกของการทำงานของมัน ชิ้นส่วนเล็กๆประกอบรวมกันเข้า สะท้อนเรื่องดังกล่าวที่คิด ทันใดนั้นเครื่องยกกลับกลายเป็นความคุ้นเคยกัน


และแล้วข้าพเจ้าก็คิดถึงการปิดล้อมที่ว่าง โครงสร้างของหลังคาและผนังเดิมๆด้วยวัสดุอย่างเดียวกัน ขณะนี้เสาและคานกลายเป็นวิทยาการของคอนกรีตและเหล็กที่มีความสามารถแต่ไม่มีความสัมพันธ์ในเชิงจังหวะกับการปิดล้อม การปิดล้อมกลายเป็นตัวของมันเองโดยลำพัง


มันเหมือนราวกับว่าสามารถสร้างอาคารด้วยหินในสมัยเรเนซองค์ อาคารนี้ประกอบด้วยห้องที่ต้องการสนับสนุนที่ว่างภายในที่ยิ่งใหญ่ ถ้าคิดถึงการใช้วัสดุในปัจจุบัน การปิดหุ้มอาคารคงเป็นผนังกระจกทั้งหมด มันเน้นกระจกที่อัศจรรย์ จนกรอบแบ่งกลายเป็นกระจกไปด้วย ข้าพเจ้าไม่ต้องการให้เหล็กแบ่งนี้มีบทบาทน้อยแค่เพียงเชื่อมต่อชิ้นส่วนของกระจก


เมื่อข้าพเจ้าคิดต่อไป ข้าพเจ้ารูสึกว่าทั้งหมดดูน่ารักแต่บอบบางเหมือนคนตัวเล็กเสียงดังพูดกับข้าพเจ้าว่า "หากท่านต้องการการช่วยเหลือ ขอให้ผมแนะนำ.. ผมคือโลหะไร้สนิม ผมสามารถสอนท่านถึงการเสริมกำลังให้กับตัวแบ่งและกระจก โดยไม่ไปบดบังอำนาจของมันเลย"
ตรงนี้ข้าพเจ้าได้บทเรียนใหม่ว่าวัสดุแต่ละอย่างมีสถานะของการออกแบบในงานสถาปัตยกรรมทั้งนั้น ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงระลึกถึงเครื่องยกที่มีอิทธิพลต่อความคิดในการออกแบบด้วยประการฉนี้แล

About...Nature

มนุษย์สร้างข้อกำหนดหรือเกณฑ์ซึ่งเกี่ยวข้องกับกฏของธรรมชาติและจิตวิญญาณ ธรรมชาติทางวัตถุขึ้นอยู่กับกฏนี้ กฏต่างๆของธรรมชาติมีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน ระเบียบคือตัวจัดความสัมพันธ์ของสิ่งนี้ หากปราศจากความรู้ของกฏนี้และความรู้สึกต่อกฏนี้แล้ว ทุกๆสิ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้


ธรรมชาติคือผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง จิตมีความปรารถณาในสิ่งเหล่านั้น ท้าทายธรรมชาติโดยการปรุงแต่งแสดงออกในสิ่งที่แสดงออกไม่ได้ และในสิ่งที่ไม่สามารถกำหนดแน่นอนได้ ไม่มีมาตรวัด ไม่มีแก่นสาร เช่น ความรัก ความชัง ความสูงส่ง เป็นต้น แม้กระทั่ง จิตต้องการแสดงออกถึงความรู้สึกซึ่งไม่สามารถกระทำได้โดยปราศจากเครื่องมือ


กฏ(ธรรมชาติ)ก็คือเครื่องมือทั้งหลาย เช่น ไวโอลิน งามออกมาจากกฏ จากแผ่นผนังของไวโอลินทั้งบนและล่าง ทำให้ก้านสีกดสายที่ถูกยกกั้นไว้ระหว่างผนังเสมือนเสากั้นที่ต่อเนื่องกัน แม้แต่เสียงที่ออกมาจากช่องเจาะผนังด้านบนที่ถูกตัดแต่งจนมองไม่เห็นคานเล็กๆกั้นผนังที่ต่อเนื่องด้านใน กฏนำไปสู่ข้อกำหนดต่างๆ ข้อกำหนดเปลี่ยนแปลงได้เสมอเพราะเกิดจากมนุษย์เป็นผู้กำหนดขึ้น

ธรรมชาติทำให้การออกแบบผ่านหลักการของระเบียบ
ธรรมชาติไม่รู้ว่าพระอาทิตย์ตกนั้นสวยอย่างไร
ธรรมชาติไร้ซึ่งจิตสำนึก
แต่สิ่งมีชีวิตมีจิตสำนึก
ข้อกำหนดหรือเกณฑ์
มีจิตสำนึก
ขณะที่กฏไม่มีจิตสำนึก


About..Question&Answer


ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ว่า คำถามที่ดีหนึ่งคำถามมีความยิ่งใหญ่กว่าคำตอบเป็นร้อยที่สวยหรู เพราะคำถามเกี่ยวข้องกับสิ่งที่วัดได้และสิ่งที่วัดไม่ได้


ธรรมชาติทางวัตถุเป็นสิ่งที่จับต้องได้วัดได้ ขณะที่ความรู้สึก ความฝัน วัดกันไม่ได้ ไม่มีภาษา ความฝันของแต่ละคนเป็นเอกเทศเป็นเรื่องส่วนบุคคล


คนๆหนึ่งยิ่งใหญ่กว่างานของเขาเพราะเขาสามารถสะท้อนแรงบันดาลใจออกมาได้ การแสดงออกในเรื่องดนตรีหรือสถาปัตยกรรม เขาต้องใช้วิธีการที่วัดได้เพื่อแต่งเพลงหรือออกแบบ
เมื่อใดเส้นแรกที่ปรากฏบนกระดาษถูกวัดได้ไปพร้อมกับการแสดงออกที่ยังไม่ได้เต็มที่ เมื่อนั้นเส้นแรกในกระดาษหมดความหมายลงทันที แล้วย้อนกลับไปหาความรู้สึกที่หนีจากความคิดอีก


ความรู้สึกเป็นเรื่องของจิต ความคิดมีทั้งความรู้สึกและกฏเกณฑ์ ระเบียบหรือกฏเกณฑ์หล่อหลอมให้ทุกสิ่งปรากฏออกมาแต่ไร้แรงปรารถนา ไม่มีความมุ่งมาดปรารถนาปรากฏ


ข้าพเจ้าใช้คำว่ากฏเกณฑ์(ระเบียบ)แทนคำว่าความรู้ เพราะความรู้แต่ละคนมีน้อยมากไม่พอให้แสดงออกทางความคิดที่เป็นนามธรรมได้ ปรากฏการณ์ของความปรารถนาเป็นเรื่องของจิต ทุกสิ่งที่เราปรารถนาจะสร้างสรรค์มีจุดเริ่มต้นของความรู้สึกเพียงลำพัง นี่เป็นความจริงสำหรับนักวิทยาศาสตร์ และเป็นความจริงสำหรับศิลปินด้วย แต่การใส่ใจเพียงความรู้สึกอย่างเดียวละเลยกับความคิดก็จะทำอะไรไม่ได้เลย


เมื่อความรู้สึกส่วนตนนำไปสู่ศาสนปรัชญา(ไม่ใช่ตัวศาสนาแต่เป็นสาระของศาสนา)และความคิดกลายเป็นปรัชญา ใจถูกเปิดออกสู่ความรู้แจ้ง รู้แจ้ง...เอาเป็นว่า ในปรากฏการณ์ความปรารถนาบนงานออกแบบสถาปัตยกรรมพิเศษในแง่วิสัยทัศน์ของที่ว่าง ความรู้แจ้งที่เป็นธรรมชาตินี้ คือการผสมผสานระหว่างความรู้สึกและความคิดขณะเมื่อจิตใจถูกปิดล้อมไว้ด้วยจิตสำนึก


ต้นเหตุของสิ่งหนึ่งที่ต้องการจะเป็น มันเป็นจุดเริ่มต้นของรูปทรง รูปทรงที่ประมวลความสัมพันธ์ของระบบต่างๆและกฎเกณฑ์ ซึ่งสะท้อนลักษณะต่อเนื่องกันไป รูปทรงไม่ใช่รูปร่างและสัดส่วน ตัวอย่างเช่น ช้อน เกิดเป็นรูปทรงที่มีสองส่วนแยกกันไม่ออก คือส่วนที่เป็นมือจับและส่วนที่เป็นแอ่งพักอาหาร


ในขณะที่การออกแบบเฉพาะเป็นช้อนเงิน ช้อนไม้ หรือช้อนวัสดุอื่นๆ ขนาดใหญ่เล็กและรูปร่างต่างๆนานา รูปทรงเกี่ยวข้องกับคำถาม อะไร? การออกแบบเกี่ยวกับคำถาม อย่างไร? รูปทรงไม่เป็นเรื่องของแต่ละคน แต่การออกแบบเป็นเรื่องของแต่ละคน การออกแบบเกิดขึ้นจากการแจกแจงในแต่ละสภาวะการณ์ขณะนั้น เช่น มีงบประมาณเท่าไร ที่ตั้งและลูกค้าเป็นอย่างไร กระทำไปด้วยความชำนาญและความรู้ของผู้ออกแบบ แต่รูปทรงไม่เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขเหล่านี้
ในเรื่องสถาปัตยกรรม มันเกี่ยวข้องกับความสอดคล้องกันของที่ว่างที่ดีเพื่อตอบสนองกิจกรรมของมนุษย์ สะท้อนถึงคุณลักษณะอันเป็นนามธรรมของที่อยู่อาศัยที่รวมความเป็นบ้านและความสุขในบ้านเข้าด้วยกัน คำว่าที่อยู่อาศัยที่มีลักษณะเป็นบ้าน หมายรวมถึงนามธรรมของที่ว่างที่ดีต่อการอยู่อาศัย ความหมายนี้คือ รูปทรง(ของบ้าน)ที่เกิดขึ้นในใจโดยปราศจากขนาดและสัดส่วน


ความหมายนี้ในอีกแง่ คือเงื่อนไขการแปลความหมายของที่ว่างเพื่ออยู่อาศัย ความหมายหลังนี้ คือ การออกแบบ ในความเห็นของข้าพเจ้า ความยิ่งใหญ่ของสถาปนิกขึ้นอยู่กับอำนาจรู้แจ้งของเขาว่าสิ่งไหนคือบ้านมากกว่าความสามารถในการออกแบบบ้าน..ซึ่งบางสิ่งเป็นการจัดเตรียมไว้ในสภาวะการณ์ในขณะนั้น


บ้าน คือที่อยู่รวมกันกับผู้อาศัย ความแตกต่างขึ้นอยู่กับผู้อาศัยแต่ละประเภท เพราะลูกค้าเป็นผู้กำหนดขั้นตอนการออกแบบพื้นที่และความต้องการต่างๆ สถาปนิกสร้างสรรค์ที่ว่างออกมาจากพื้นที่ที่ต้องการเหล่านี้ บ้านเช่นนี้ออกแบบเพื่อครอบครัวหนึ่งโดยเฉพาะ ถ้าจะให้สะท้อนความจริงในรูปทรง การออกแบบต้องตอบสนองคุณลักษณะที่ดีต่อครอบครัวอื่นๆด้วย
About...Schools

โรงเรียน เริ่มต้นจากการที่คนๆหนึ่งอยู่ใต้ต้นไม้ คนซึ่งไม่รู้ว่าตนเองเป็นครู กำลังสนทนาถึงความรู้แจ้งของเขากับคนอื่นอีกสองสามคนซึ่งไม่รู้ว่าเขาเหล่านั้นเป็นนักเรียน เขาเหล่านั้นได้สะท้อนการแลกเปลี่ยนระหว่างกันบนความดีงามที่ปรากฏบนตัวของคนๆนี้ พวกเขาอยากให้ลูกๆได้ฟังคนๆนี้ด้วยกัน และแล้วความต้องการที่ว่างก็ถูกสร้างขั้นเป็นโรงเรียนหลังแรกเกิดขึ้น การก่อตั้งโรงเรียนเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะมันกลายเป็นส่วนหนึ่งในแรงปรารถนาของมนุษย์


ระบบการศึกษาที่กว้างขวางรวมตัวกลายเป็นสถาบันของการเรียนรู้ของเราในปัจจุบัน เป็นแบบสำเร็จรูปและไร้แรงบันดาลใจ เพื่อให้แน่ใจ สถาบันนี้จะประกอบไปด้วยห้องเรียนเหมือนๆกัน มีตู้เก็บสัมภาระวางเรียงตลอดแนวของส่วนที่เป็นทางเดิน พร้อมกับส่วนบริการและอุปกรณ์ ถูกจัดไว้อย่างเรียบร้อย โดยสถาปนิกตอบสนองตามความต้องการและงบประมาณก่อสร้างซึ่งจำกัดโดยผู้มีอำนาจของโรงเรียน โรงเรียนลักษณะนี้ แม้ดูสวยแต่ตื้นเขินสำหรับงานสถาปัตยกรรม เพราะมันไม่ได้สะท้อนจิตวิญญาณของคนอยู่ใต้ต้นไม้เลย


อย่างไรก็ตาม มีการเริ่มต้นโดยไม่สอดคล้องกับธรรมชาติของมนุษย์ ซึ่งถือได้ว่าไม่มีการเริ่มต้นในทุกระบบของโรงเรียน แรงปรารถนาความมีอยู่ของโรงเรียนมีขึ้น ก่อนหน้าจะเกิดสภาวะการณ์ที่มีคนอยู่ใต้ต้นไม้ ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นการดีกับจิตใจที่ย้อนกลับไปสู่การเริ่มต้นใหม่ เพราะการเริ่มต้นของการกำหนดกิจกรรมต่างๆของมนุษย์ เป็นช่วงเวลาที่มหัศจรรย์ที่สุด เพราะในช่วงขณะนั้นจิตวิญญาณและทรัพยากรทั้งหลาย ซึ่งเป็นความจำเป็นที่เราจะต้องค่อยๆระลึกถึงเพื่อสร้างแรงบันดาลใจออกมา เราสามารถทำให้สถาบันของเรายิ่งใหญ่ได้ โดยการให้สถาปัตยกรรมที่เราเสนอ ได้สะท้อนถึงแรงบันดาลใจของเราให้ได้

สะท้อนชั่วขณะในความหมายของโรงเรียน ที่ต่างจากโรงเรียนหรือสถาบันทั้งหลายในปัจจุบัน สถาบันมีอำนาจก็โดยจากที่เราได้ให้ความต้องการพิเศษสำหร้บโรงเรียนนั้นๆ โรงเรียนมีการออกแบบโดยเฉพาะ ก็เพื่อความมุ่งหวังความเป็นสถาบันจากเรา แต่ โรงเรียน...จิตวิญญาณของโรงเรียน สาระของความมีอยู่ในแรงปรารถนา คือสิ่งที่สถาปนิกควรนำไปใช้ผ่านตัวกลางในการออกแบบของเขาด้วย ตรงนี้จะทำให้สถาปนิกแตกต่างจากคนออกแบบทั่วๆไป

ห้องเรียนทั่วไปในโรงเรียนเช่นนี้ ไม่ควรเอาอย่างโรงเรียนทหารธรรมดาๆ แต่ควรมีที่ว่างที่หลากหลาย สำหรับความคิดที่มหัศจรรย์ในจิตวิญญาณของคนอยู่ใต้ต้นไม้ ที่แต่ละคนสามารถระลึกถึงได้ ครูหรือนักเรียนไม่เหมือนกันกับบางคนที่คุ้นเคยกับห้องที่มีเตาผิง หรือมีห้องขนาดสูงใหญ่สำหรับคนอื่นๆ และห้องอาหารต้องอยู่ชั้นใต้ถุนเพราะใช้กันน้อยครั้งด้วยหรือ? ช่วงเวลาพักผ่อนหลังอาหารไม่ควรเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนด้วยหรือ?

การรู้ซึ้งถึงที่ว่างโดยเฉพาะในความคิดของโรงเรียน ควรทำให้การออกแบบเป็นเรื่องของความเป็นสถาบันแห่งการเรียนรู้ กลายเป็นสิ่งท้าทายต่อสถาปนิกและปลุกให้ตื่นในการใส่ใจว่าอะไรคือโรงเรียนที่ต้องการจะเป็น เช่นเดียวกันกับการกล่าวถึงการใส่ใจในรูปทรงของโรงเรียน

Giotto เป็นจิตกรที่ยิ่งใหญ่ เพราะเขาเป็นศิลปินที่วาดท้องฟ้าเป็นสีดำในเวลากลางวัน และวาดนกที่ไม่สามารถบินได้ วาดสุนัขที่ไม่สามารถวิ่งได้ และเขาวาดคนมีขนาดใหญ่โตกว่าประตูทางเข้า จิตกรมีอภิสิทธิ์ในการกระทำสิ่งเหล่านี้ได้ เพราะเขาไม่ต้องให้คำตอบเรื่องแรงดึงดูดของโลกหรือสร้างจินตภาพตามสิ่งซึ่งเรารู้ในชีวิตจริงๆ ในฐานะของจิตกรเขาแสดงออกด้วยการขัดแย้งกับธรรมชาติ เขาสอนเราผ่านสายตาของเขาในเรื่องความขัดแย้งต่อธรรมชาติของมนุษย์ เช่นกัน ปฏิมากรสามารถปั้นและปรับแต่งที่ว่างด้วยวัตถุที่แสดงออกถึงการขัดแย้งกับธรรมชาติ อย่างไรก็ตามสถาปัตยกรรมมีข้อจำกัดในเรื่องนี้ แม้เราสัมผัสข้อจำกัดของกำแพงที่มองไม่เห็นนี้ แต่เราก็ยังรู้มากขึ้นถึงอะไรที่มันห่อหุ้มไว้ จิตกรสามารถวาดล้อของปืนใหญ่เป็นรูปสี่เหลี่ยมเพื่อแสดงออกถึงการต่อต้านสงคราม ปฏิมากรสามารถปั้นแต่งเป็นล้อเหลี่ยมได้เช่นกัน แต่สำหรับสถาปนิกล้อของปืนใหญ่ต้องเป็นวงกลม แม้ว่าจิตกรและปฏิมากรมีบทบาทสำคัญในโลกสถาปัตยกรรม เช่นเดียวกับที่งานสถาปัตยกรรมมีบทบาทสำคัญต่อโลกของจิตกรรมและปฏิมากรรมก็ตาม แต่มันไม่อยู่บนหลักการเดียวกัน อาจบอกได้ว่างานสถาปัตยกรรมเป็นการคิดสร้างที่ว่าง มันไม่ใช่การสนองตอบตามการ
ชี้แนะของลูกค้า แต่เป็นการสร้างสรรค์ที่ว่างเพื่อสนองความรู้สึกถึงความเหมาะสมในการใช้สอย
About....Buildings

อาคารที่ยิ่งใหญ่ ในความเห็นของข้าพเจ้า เริ่มขึ้นจากสิ่งที่วัดกันไม่ได้ แล้วสืบต่อไปสู่สิ่งที่วัดได้ในขบวนการออกแบบแต่อีกครั้ง ในตอนสุดท้ายควรกลับกลายเป็นสิ่งที่วัดกันไม่ได้เหมือนเดิม
การออกแบบเป็นการทำสิ่งให้วัดกันได้ จริงๆแล้วในประเด็นนี้ ท่านเป็นเหมือนธรรมชาติทางกายภาพในตัวเอง เพราะทุกสิ่งที่เป็นธรรมชาติทางกายภาพหรือวัตถุนั้นเป็นสิ่งที่วัดกันได้ แม้ว่าขณะนั้นยังวัดไม่ได้ก็ตาม เหมือนเช่นระยะทางระหว่างดวงดาวต่างๆในท้องฟ้าซึ่งเราคาดว่าจะวัดได้หมดในอนาคต


อะไรที่วัดไม่ได้เป็นเรื่องของจิตวิญญาณ จิตแสดงออกทางความรู้สึกและความคิดด้วย ข้าพเจ้าเชื่อว่ามันเป็นสิ่งที่วัดไม่ได้ ข้าพเจ้ารู้สึกว่าจิตวิญญาณของความคงอยู่ในแรงปรารถนาอาจเรียกว่าเป็นธรรมชาติที่บ่งชี้ต่อสิ่งที่มันต้องการจะเป็น ข้าพเจ้าคิดว่า ดอกกุหลาบต้องการจะเป็นดอกกุหลาบเท่านั้น


มนุษย์ถูกสร้างขึ้นจากความคงอยู่ของแรงปรารถนา ผ่านกฏของธรรมชาติในเรื่องการวิวัฒนาการ แต่มักมีผลเกิดขึ้นมาน้อยกว่าแรงปรารถนาในจิตวิญญาณของความมีอยู่ ในทำนองเดียวกัน อาคารจะมีความสมบูรณ์ก็เมื่อท่านเริ่มต้นในสิ่งที่วัดไม่ได้สืบไปสู่สิ่งที่วัดได้ต่อมา เพราะมันเป็นหนทางเดียวที่ท่านสามารถสร้างมันได้ หนทางเดียวที่ท่านจะนำอาคารเข้าสู่สิ่งที่วัดได้ คือท่านต้องยึดถือกฏ แต่ในตอนท้ายเมื่ออาคารนั้นกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา มันก็จะกลับไปให้รับรู้ถึงคุณภาพที่วัดกันไม่ได้ในที่สุด ขั้นตอนการออกแบบขึ้นอยู่กับปริมาณของอิฐ วิธีการก่อสร้างและวิศวกรรมที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ แล้วต่อมาจิตวิญญาณของความมีอยู่ของอาคารก็เข้ามาแทนที่

About..Cityเพราะรถยนต์เศร้าใจต่อรูปทรงของเมือง ข้าพเจ้ารู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องแบ่งแยกระหว่างสถาปัตยกรรมท่อส่งสำหรับรถยนต์และสถาปัตยกรรมสำหรับกิจกรรมของมนุษย์ แนวโน้มของนักออกแบบต้องการเชื่อมสถาปัตยกรรมสองแบบนี้อย่างง่ายๆ จนสับสนต่อแนวทางการวางผังเมืองและวิทยาการที่ก้าวหน้า
สถาปัตยกรรมท่อส่งเข้าสู่เมืองตรงบริเวณรอบนอก มันต้องวางผังอย่างรอบคอบแม้ว่าจะมีราคาแพง ต้องเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่เคารพต่อศูนย์กลางเมือง สถาปัตยกรรมท่อส่งนี้จะรวมถนนที่เคยอยู่ในเมืองเข้าด้วยกันเป็นอาคาร อาคารที่มีห้องของท่อและส่วนบริการอื่นๆใต้ตัวเมือง จึงทำให้ไม่มีอุปสรรคในการจราจรเมื่อมีการซ่อมแซมเกิดขึ้น สถาปัตยกรรมท่อส่งจะรวมแนวคิดของถนนต่างๆเข้าด้วยกัน มันจะแยกส่วนระหว่างจุดเคลื่อนที่และจุดหยุดการเคลื่อนที่ของรถเมล์และรถยนต์ส่วนบุคคล บริเวณที่เป็นเส้นทางด่วนจะเปรียบเหมือนแม่น้ำ แม่น้ำต้องการท่าจอดเรือ ส่วนถนนเปรียบเสมือนคลองต้องการท่าเทียบเรือ
อาคารรับรองของสถาปัตยกรรมท่อส่งนี้คือท่าจอดเรือ ลักษณะเป็นประตูทางเข้าที่ใหญ่โตสะท้อนรูปทรงของสถาปัตยกรรมแห่งการหยุดเคลื่อนที่ อาคารรับรองนี้ประกอบไปด้วยอาคารจอดรถตรงบริเวณศูนย์กลาง มีอาคารโรงแรมและร้านค้าขนาดใหญ่โดยรอบ บริเวณศูนย์การค้าอยู่ตรงระดับชั้นของถนนต่างๆ ยุทธวิธีการจัดวางตำแหน่งรอบใจกลางเมืองนี้ จะเป็นแนวความคิด ในการป้องกันเมืองที่จะโดนทำลายโดยรถยนต์ ในความรู้สึกที่ว่าเมืองกับรถยนต์กำลังทำสงครามกันอยู่ขณะนี้

การวางแผนสำหรับการขยายตัวใหม่ของเมืองจะไม่กระทำกันอย่างเฉยเมยอีกต่อไป แต่จะกลับกลายเป็นเรื่องเร่งด่วนมีความกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา การแยกส่วนของสถาปัตยกรรมสองแบบนี้ สถาปัตยกรรมท่อส่งและสถาปัตยกรรมของกิจกรรมมนุษย์ จะส่งผลการเติบโตที่มีตรรกและมีสถานะภาพที่มั่นคงต่อการพัฒนาเมือง
เมืองเกิดจากการรวมตัวของสถาบันต่างๆ ที่กำหนดขึ้นและมีการสนับสนุนโดยประชาชนเมือง การศึกษา รัฐบาล และที่อยู่อาศัย คือสถาบันต่างๆดังกล่าว เมื่อสถาปนิกเริ่มงาน อาคารที่เขาออกแบบจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันอันใดอันหนึ่ง ก่อนที่ลูกค้าจะพึงพอใจในความต้องการของเขา ซึ่งจะโดนบังคับให้เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันทางสังคม อันต้องถือเป็นพื้นฐานของการตัดสินใจในการออกแบบกันเลย
ข้าพเจ้าไม่สามารถทำนายสถาปัตยกรรมในอนาคตได้ ขอเพียงให้ทำงานกันภายใต้กฏของการรวมตัวกันก็พอแล้ว ทำให้สถาปัตยกรรมที่อยู่ในกฏเกณฑ์ใหม่เหมือนระบบกฏหมายต่างๆที่กลายเป็นส่วนร่วมรวมระเบียบทางกายภาพและธรรมชาติของมวลมนุษย์เข้าด้วยกัน นี่คืออำนาจที่มนุษย์จะก้าวข้ามข้อจำกัดของตนได้
เช่น คนๆหนึ่งซึ่งข้าพเจ้าเชื่อว่าต้องการบินเหมือนนก หรืออยากว่ายน้ำอย่างปลาและวิ่งได้อย่างกวาง ก็จะสามารถทำได้ ท่านอาจพูดได้ว่า..ใบโคลบเวอร์คือเจ้าเสือชีต้านั่นเอง อะไรๆที่ท่านต้องการ แทนที่จะเป็นการมองในแง่ดีเพียงการแก้ไขเมือง ควรเป็นการจัดระเบียบทางกายภาพเสียใหม่ ทำในสิ่งที่รถยนต์ต้องการ คือสถาปัตยกรรมของการเคลื่อนไหวหรือสถาปัตยกรรมท่อส่ง(รถยนต์) สถาปัตยกรรมนี้จะให้จินตภาพในแง่บวกสำหรับเมืองสมัยใหม่ ซึ่งทำให้จุดเปลี่ยนต่างๆของการสัญจรมีการเชื่อมต่อและสัมพันธ์แก่กันและกัน

About..Conclusion
รูปทรงเกิดจากความประหลาดใจ ความประหลาดใจแยกแขนงมาจากสิ่งที่สัมผัสไม่ได้ ผนวกกับเรื่องราวที่เราถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร ในแง่หนึ่ง ธรรมชาติบันทึกกระบวนสร้างนี้ไว้ อะไรๆที่เกิดขึ้นนั้นจะถูกบันทึกไว้รวมกับว่ามันถูกสร้างขึ้นได้อย่างไร


จะสัมผัสกับบันทึกนี้ได้ก็ด้วยความประหลาดใจ ความประหลาดใจเป็นบ่อเกิดของความรู้ แต่ความรู้ต้องเกี่ยวข้องกับความรู้อื่นๆบนความสัมพันธ์ในรูปของระเบียบในความสอดคล้อง เกี่ยวข้อง และสัมพันธ์กันและกันอย่างไรจึงทำให้สรรพสิ่งปรากฏขึ้น จากความรู้นำไปสู่ระเบียบ ทำให้เรากลับไปสู่ความประหลาดใจที่จะต้องกล่าวว่า "ข้าพเจ้าจะทำให้ความประหลาดใจเกิดขึ้นได้อย่างไร" ...(อาเมน)

ไม่มีความคิดเห็น: