Edited and Designed by
Richard Saul Wurman and Eugene Feldman,1962
ที่ว่าง..จะปราศจากคุณค่าในแง่สถานที่ทางสถาปัตยกรรม หากไม่มีแสงธรรมชาติสาดส่อง ส่วนแสงประดิษฐ์นั้้้น เป็นแค่เพียงแสงสว่างในยามค่ำคืนที่สาดมาจากโคมไฟที่ติดตั้งไว้ในตำแหน่งถาวร เปรียบเทียบไม่ได้เลยกับแสงธรรมชาติที่แปรเปลี่ยนอยู่ตลอดวัน
สถานที่..ทางเข้า ช่องทางเดิน แตกแขนงมาจากการกระจายตัวของแสง ทางเข้าที่คุ้นเคย เกิดได้กับที่ว่างที่มีีองค์ประกอบของรูปทรงสัมพันธ์เป็นสถาปัตยกรรมอันอิสระ ที่ว่างทางสถาปัตยกรรมนี้ สำคัญเที่ยบเท่าที่ว่างหลัก แม้ว่าที่ว่างเหล่านี้จะถูกออกแบบเพียงแค่ทางผ่าน แต่ก็ต้องออกแบบให้ได้แสงธรรมชาติอย่างทั่วถึง
ลูกค้าถามหาพื้นที่ ในขณะที่สถาปนิกต้องเสนอคำตอบของที่ว่าง
ลูกค้าคิดถึงทางเดินผ่านอยู่ในใจ สถาปนิกต้องค้นหาเหตุผลเพื่อให้เป็นซุ้มทางเดินที่น่าสนใจใคร่อยากเดิน
ลูกค้าให้งบประมาณ สถาปนิกต้องตอบสนองด้วยความเหมาะสมหรือคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ
ลูกค้าพูดถึงห้องแรกรับ สถาปนิกต้องเพิ่มคุณค่าห้องทางเข้านี้ให้เป็นสถานที่ทรงอำนาจและมีความสง่างาม
แสงธรรมชาติสนองให้เกิดอารมณ์ของที่ว่างด้วยความละมุนของลำแสงที่ผันแปรเปลี่ยนในแต่ละช่วงเวลาของวัน แต่ละช่วงฤดูของปี อันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคุณลักษณะของที่ว่างตลอดเวลาในที่สุด
วันหนึ่ง..ขณะที่ยังเป็นเด็ก ข้าพเจ้ากำลังลอกภาพวาดของนโปเลียน ตาข้างซ้ายของนโปเลียนในภาพสร้างความลำบากให้มากๆ ข้าพเจ้าต้องลบออกแล้วเขียนใหม่อยู่หลายครั้งก็ย้งไมเป็นที่่พอใจสักที ทันใดนั้นเอง บิดาข้าพเจ้าโน้มตัวลงช่วยเขียนแก้ไขให้ด้วยความสงสาร หลังจากนั้น ข้าพเจ้าก็ขยำภาพวาดนั้นขว้างทิ้งไปกลางห้องพร้อมกับดินสอทันที กับตะโกนตามไปว่า "นี่..ไม่ใช่ภาพวาดของข้าพเจ้าอีกต่อไปแล้ว..ไม่ใช่อีกแล้ว" เพราะ คนสองคนไม่สามารถร่วมเขียนภาพเดียวกันได้เด็ดขาด และ ข้าพเจ้าเชื่อว่าคนที่มีความชำนาญในการลอกเลียนภาพวาดควรได้รับการตรวจสอบแก้ไขจากศิลปินเจ้าของภาพต้นฉบับเองเท่านั้น
สมุดวาดภาพของจิตกร นักปฏิมากร หรือสถาปนิก ควรมีความแตกต่างกัน จิตกรร่างภาพเพื่อวาด ปฏิมากรร่างภาพเพื่อปั้น ส่วนสถาปนิกเขียนแบบหรือวาดภาพเพื่อการก่อสร้างมันในที่สุด
อ้างถึงอาคาร Pantheon ในกรุงโรม ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งอาคารที่ยิ่งใหญ่ ความยิ่งใหญ่มีหลายแง่มุม แง่หนึ่งมันเป็นสิ่งสะท้อนของความเชื่อแลความเห็นที่มั่นคงบนอาคารเพื่ออุทิศให้กับศาสนาและที่ว่างทางพิธีกรรมที่อิสระ สะท้อนความรู้สึกออกมาอย่างชัดเจน มันนำเสนอความเชื่อของผู้นำที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งในการออกแบบทีว่างแบบโดมที่ไร้ทิศทาง ราวกับว่าสถาปัตยกรรมถูกแสดงออกเป็นโลกที่ซ้อนอยู่ในโลกใบใหญ่ของเรา มันสะท้อนออกมาได้อย่างดี ด้วยการปรับแต่งอย่างประนีตในรูปช่องแสงกลมหนึ่งเดียวตรงกลางบนสุดของโดม อาคารนี้ไม่มีต้นแบบ สิ่งเร้าของมันชัดเจนและเต็มเปี่ยมด้วยความเชื่อและพลังของ "ความต้องการเป็น" ให้แรงบันดาลใจในการออกแบบเท่าๆกับแรงปรารถนาในรูปทรงของมัน
About..Structure of Building
ในยุคโกธิค สถาปัตยกรรมสร้างด้วยหินก้อนตัน ปัจจุบันสถาปนิกสามารถสร้างมันด้วยหินก้อนกลวง ที่ว่างโดนกำหนดด้วยองค์ประกอบของโครงสร้างที่แต่ละชิ้นส่วนมีความสำคัญเท่าเทียมกัน ขนาดของที่ว่างไล่เรียงเริ่มจากช่องว่างทีปิดทับด้วยแผ่นฉนวน ช่องอากาศเพื่อให้แสงสว่าง และความร้อนพัดผ่าน จนมีขนาดช่องว่างที่ใหญ่ขึ้นพอให้คนเดินผ่านหรือพักอาศัยได้ แรงปรารถนาที่แสดงออกมาของช่องว่าง เกิดจากการออกแบบโครงสร้างบนพื้นฐานความสนใจที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และการทำงานที่มีพัฒนาการจนนำไปสู่โครงสร้างชนิดประสานกัน รูปทรงที่ถูกนำมาใช้ทดลองมาจากความรู้ที่ใกล้ชิดธรรมชาติและมาจากการคิดค้นบนหลักการที่ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น
การออกแบบจนกลายเป็นนิสัยนำไปสู่การปกปิดโครงสร้างจนไม่มีที่สำหรับอ้างถึงกฏเกณฑ์อีกต่อไป นิสัยเช่นนี้ทำให้พัฒนาการของศิลปะกลายเป็นเรื่องปัญญาอ่อน ข้าพเจ้าเชื่อว่าสถาปัตยกรรมเหมือนศิลปะทั้งหลายทั้งปวง ศิลปินมักใช้สัณชาตญาณเป็นการรักษาไว้ถึงร่องรอยซึ่งจะบ่งบอกว่ามันถูกสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างไร
เริ่มกันในยุคของความเชื่อเรื่องรูปทรง
การออกแบบ...เป็นเครื่องชี้ชัดสนองความเชื่อเรื่องดังกล่าว
การก่อสร้าง... คือกิจกรรมที่เกิดจากการกำหนดระบบและกฏเกณฑ์
แต่เมื่องานเสร็จสิ้นลง จุดเริ่มต้นควรสามารถหวลรำลึกถึงได้
การออกแบบแต่ละครั้ง คือการจุดประกายแต่ละทีที่อุบัติออกมาจากรูปทรงมันเกี่ยวข้องกับวัสดุ รูปร่างและสัดส่วน เป็นการยากที่จะกล่าวถึงงานเมื่อมันเสร็จแล้ว เพราะท่านจะรู้สึกอยู่เสมอว่ามันคงยังไม่เสร็จสักที
รูปทรงต้องสนองตอบระเบียบและกฏเกณฑ์ที่มันเป็น คนๆหนึ่งควรรู้สึกถึงงานคนอื่นเสมือนเป็นการจุดประกายการก้าวล่วง ในความอิ่มใจของความเป็นสามัญธรรมดาและในความเชื่อ
About..Richard Medical Research Buildingตึกปฏิบัติการค้นคว้าในมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียที่ข้าพเจ้าออกแบบ เป็นที่รวมความรู้แจ้งในแง่ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ควรมีคุณค่าเสมือนห้องเขียนภาพ และอากาศที่หายใจต้องแยกอากาศปนเปื้อนและอากาศเสียออกจากกันโดยสิ้นเชิง โดยทั่วๆไปแบบแปลนของห้องปฏิบัติการณ์มักวางที่ว่างทำงานข้างทางเดินตรงกลาง อีกด้านเป็นที่ว่างสำหรับบันได ลิฟท์ ห้องขังสัตว์ทดลอง ท่อและงานระบบอื่นๆ แปลนแบบนี้ทำให้ตรงบริเวณทางเดินดังกล่าว มีอากาศที่หายใจผสมปนเปกับอากาศเสียที่เกิดจากการทดลองจนเป็นอากาศพิษได้ ความแตกต่างสำหรับที่ว่างในการทำงานของแต่ละคนแบ่งแยกด้วยจำนวนประตูเท่านั้น แต่สำหรับมหาวิทยาลัยนี้ ข้าพเจ้าออกแบบเป็นลักษณะห้องปฏิบัติการรวมสามชุดคนทำงานแต่ละคนทำงานในส่วนจัดแบ่งเป็นส่วนๆของแต่ละคน แต่ละห้องปฏิบัติการรวมมีปล่องระบายอากาศเสียแยกย่อยในแต่ละกรณี
ข้าพเจ้าไม่ชอบท่อ ไม่ชอบรางวางสายอุปกรณ์ต่างๆ ข้าพเจ้าเกลียดมันทั้งนั้น เพราะเกลียดสิ่งเหล่านี้จริงๆ ข้าพเจ้าเลยรูสึกว่าต้องหาที่ทางให้สิ่งเหล่านี้ หากเพียงแต่เกลียดแล้วไม่ใส่ใจ สิ่งพวกนี้ก็จะรุกรานและทำลายอาคารในที่สุด ข้าพเจ้าต้องการแก้ไขในกรณีที่ท่านอาจเข้าใจว่าข้าพเจ้าชอบสิ่งพวกนี้
วันหนึ่งระหว่างที่กำลังรอเพื่อน ข้าพเจ้าสังเกตุเห็นเครื่องยกกำลังทำงานยกชิ้นส่วนหนักๆของตึกปฏิบัติการณ์ในบริเวณมหาวิทยาลัย วันก่อนๆที่เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของเจ้าตัวสีแดงนี้ซึ่งมีขนาดใหญ่เกินอาคารและชิ้นส่วนที่มันกำลังยกวางเข้าที่ มันมีภาพปรากฎเสมอในทุกความก้าวหน้าของการก่อสร้างที่ข้าพเจ้าเฝ้าดู
สะท้อนให้ข้าพเจ้ารู้ว่าการออกแบบต้องถูกบังคับโดยความสามารถของเครื่องยกนี้ ข้าพเจ้าคิดว่าช่วงเสาราวสองสามร้อยฟุตมีช่วงพาดกว้างมากทีเดียว ลักษณะของเสากลายสภาพเป็นที่รวมของห้องบริการ มีชิ้นส่วนประกอบเข้าด้วยกันเห็นรอยต่อและส่วนเชื่อมติดกันในแต่ละชิ้นอย่างน่าสนใจ จริงๆแล้วรอยต่อของชิ้นส่วนเหล่านี้เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนจากระยะไกล มันสะท้อนให้ข้าพเจ้าพบว่านี่คือส่วนตกแต่งอาคารนั่นเอง
ตรงนี้รูปทรงของเสาถูกออกแบบให้สนับสนุนที่ว่างขนาดใหญ่ เพราะว่าชิ้นส่วนเหล่านี้ใหญ่เกินไปมีน้ำหนักเกินกว่าน้ำหนักของเครื่องยก ข้าพเจ้าคิดว่ามันต้องการเครื่องยกที่ใหญ่กว่านี้จนลืมเรื่องอื่นๆ ขณะนี้รอยต่อต้องการเน้นโดยการอุดรอย ในระดับเดียวกันกับที่เสาถูกบุครอบด้วยแผ่นหินอ่อน
ชิ้นส่วนกลายเป็นเส้นเลือดมีกำลังที่ผสมผสานแสดงออกของการทำงานของมัน ชิ้นส่วนเล็กๆประกอบรวมกันเข้า สะท้อนเรื่องดังกล่าวที่คิด ทันใดนั้นเครื่องยกกลับกลายเป็นความคุ้นเคยกัน
และแล้วข้าพเจ้าก็คิดถึงการปิดล้อมที่ว่าง โครงสร้างของหลังคาและผนังเดิมๆด้วยวัสดุอย่างเดียวกัน ขณะนี้เสาและคานกลายเป็นวิทยาการของคอนกรีตและเหล็กที่มีความสามารถแต่ไม่มีความสัมพันธ์ในเชิงจังหวะกับการปิดล้อม การปิดล้อมกลายเป็นตัวของมันเองโดยลำพัง
มันเหมือนราวกับว่าสามารถสร้างอาคารด้วยหินในสมัยเรเนซองค์ อาคารนี้ประกอบด้วยห้องที่ต้องการสนับสนุนที่ว่างภายในที่ยิ่งใหญ่ ถ้าคิดถึงการใช้วัสดุในปัจจุบัน การปิดหุ้มอาคารคงเป็นผนังกระจกทั้งหมด มันเน้นกระจกที่อัศจรรย์ จนกรอบแบ่งกลายเป็นกระจกไปด้วย ข้าพเจ้าไม่ต้องการให้เหล็กแบ่งนี้มีบทบาทน้อยแค่เพียงเชื่อมต่อชิ้นส่วนของกระจก
เมื่อข้าพเจ้าคิดต่อไป ข้าพเจ้ารูสึกว่าทั้งหมดดูน่ารักแต่บอบบางเหมือนคนตัวเล็กเสียงดังพูดกับข้าพเจ้าว่า "หากท่านต้องการการช่วยเหลือ ขอให้ผมแนะนำ.. ผมคือโลหะไร้สนิม ผมสามารถสอนท่านถึงการเสริมกำลังให้กับตัวแบ่งและกระจก โดยไม่ไปบดบังอำนาจของมันเลย"
ตรงนี้ข้าพเจ้าได้บทเรียนใหม่ว่าวัสดุแต่ละอย่างมีสถานะของการออกแบบในงานสถาปัตยกรรมทั้งนั้น ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงระลึกถึงเครื่องยกที่มีอิทธิพลต่อความคิดในการออกแบบด้วยประการฉนี้แล
About...Nature
มนุษย์สร้างข้อกำหนดหรือเกณฑ์ซึ่งเกี่ยวข้องกับกฏของธรรมชาติและจิตวิญญาณ ธรรมชาติทางวัตถุขึ้นอยู่กับกฏนี้ กฏต่างๆของธรรมชาติมีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน ระเบียบคือตัวจัดความสัมพันธ์ของสิ่งนี้ หากปราศจากความรู้ของกฏนี้และความรู้สึกต่อกฏนี้แล้ว ทุกๆสิ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้
มนุษย์สร้างข้อกำหนดหรือเกณฑ์ซึ่งเกี่ยวข้องกับกฏของธรรมชาติและจิตวิญญาณ ธรรมชาติทางวัตถุขึ้นอยู่กับกฏนี้ กฏต่างๆของธรรมชาติมีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน ระเบียบคือตัวจัดความสัมพันธ์ของสิ่งนี้ หากปราศจากความรู้ของกฏนี้และความรู้สึกต่อกฏนี้แล้ว ทุกๆสิ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้
กฏ(ธรรมชาติ)ก็คือเครื่องมือทั้งหลาย เช่น ไวโอลิน งามออกมาจากกฏ จากแผ่นผนังของไวโอลินทั้งบนและล่าง ทำให้ก้านสีกดสายที่ถูกยกกั้นไว้ระหว่างผนังเสมือนเสากั้นที่ต่อเนื่องกัน แม้แต่เสียงที่ออกมาจากช่องเจาะผนังด้านบนที่ถูกตัดแต่งจนมองไม่เห็นคานเล็กๆกั้นผนังที่ต่อเนื่องด้านใน กฏนำไปสู่ข้อกำหนดต่างๆ ข้อกำหนดเปลี่ยนแปลงได้เสมอเพราะเกิดจากมนุษย์เป็นผู้กำหนดขึ้น
ธรรมชาติทำให้การออกแบบผ่านหลักการของระเบียบ
ธรรมชาติไม่รู้ว่าพระอาทิตย์ตกนั้นสวยอย่างไร
ธรรมชาติไร้ซึ่งจิตสำนึก
แต่สิ่งมีชีวิตมีจิตสำนึก
ข้อกำหนดหรือเกณฑ์ มีจิตสำนึก
ขณะที่กฏไม่มีจิตสำนึก
ธรรมชาติทำให้การออกแบบผ่านหลักการของระเบียบ
ธรรมชาติไม่รู้ว่าพระอาทิตย์ตกนั้นสวยอย่างไร
ธรรมชาติไร้ซึ่งจิตสำนึก
แต่สิ่งมีชีวิตมีจิตสำนึก
ข้อกำหนดหรือเกณฑ์ มีจิตสำนึก
ขณะที่กฏไม่มีจิตสำนึก
ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ว่า คำถามที่ดีหนึ่งคำถามมีความยิ่งใหญ่กว่าคำตอบเป็นร้อยที่สวยหรู เพราะคำถามเกี่ยวข้องกับสิ่งที่วัดได้และสิ่งที่วัดไม่ได้
ธรรมชาติทางวัตถุเป็นสิ่งที่จับต้องได้วัดได้ ขณะที่ความรู้สึก ความฝัน วัดกันไม่ได้ ไม่มีภาษา ความฝันของแต่ละคนเป็นเอกเทศเป็นเรื่องส่วนบุคคล
คนๆหนึ่งยิ่งใหญ่กว่างานของเขาเพราะเขาสามารถสะท้อนแรงบันดาลใจออกมาได้ การแสดงออกในเรื่องดนตรีหรือสถาปัตยกรรม เขาต้องใช้วิธีการที่วัดได้เพื่อแต่งเพลงหรือออกแบบ
เมื่อใดเส้นแรกที่ปรากฏบนกระดาษถูกวัดได้ไปพร้อมกับการแสดงออกที่ยังไม่ได้เต็มที่ เมื่อนั้นเส้นแรกในกระดาษหมดความหมายลงทันที แล้วย้อนกลับไปหาความรู้สึกที่หนีจากความคิดอีก
ความรู้สึกเป็นเรื่องของจิต ความคิดมีทั้งความรู้สึกและกฏเกณฑ์ ระเบียบหรือกฏเกณฑ์หล่อหลอมให้ทุกสิ่งปรากฏออกมาแต่ไร้แรงปรารถนา ไม่มีความมุ่งมาดปรารถนาปรากฏ
เมื่อความรู้สึกส่วนตนนำไปสู่ศาสนปรัชญา(ไม่ใช่ตัวศาสนาแต่เป็นสาระของศาสนา)และความคิดกลายเป็นปรัชญา ใจถูกเปิดออกสู่ความรู้แจ้ง รู้แจ้ง...เอาเป็นว่า ในปรากฏการณ์ความปรารถนาบนงานออกแบบสถาปัตยกรรมพิเศษในแง่วิสัยทัศน์ของที่ว่าง ความรู้แจ้งที่เป็นธรรมชาตินี้ คือการผสมผสานระหว่างความรู้สึกและความคิดขณะเมื่อจิตใจถูกปิดล้อมไว้ด้วยจิตสำนึก
ต้นเหตุของสิ่งหนึ่งที่ต้องการจะเป็น มันเป็นจุดเริ่มต้นของรูปทรง รูปทรงที่ประมวลความสัมพันธ์ของระบบต่างๆและกฎเกณฑ์ ซึ่งสะท้อนลักษณะต่อเนื่องกันไป รูปทรงไม่ใช่รูปร่างและสัดส่วน ตัวอย่างเช่น ช้อน เกิดเป็นรูปทรงที่มีสองส่วนแยกกันไม่ออก คือส่วนที่เป็นมือจับและส่วนที่เป็นแอ่งพักอาหาร
ในขณะที่การออกแบบเฉพาะเป็นช้อนเงิน ช้อนไม้ หรือช้อนวัสดุอื่นๆ ขนาดใหญ่เล็กและรูปร่างต่างๆนานา รูปทรงเกี่ยวข้องกับคำถาม อะไร? การออกแบบเกี่ยวกับคำถาม อย่างไร? รูปทรงไม่เป็นเรื่องของแต่ละคน แต่การออกแบบเป็นเรื่องของแต่ละคน การออกแบบเกิดขึ้นจากการแจกแจงในแต่ละสภาวะการณ์ขณะนั้น เช่น มีงบประมาณเท่าไร ที่ตั้งและลูกค้าเป็นอย่างไร กระทำไปด้วยความชำนาญและความรู้ของผู้ออกแบบ แต่รูปทรงไม่เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขเหล่านี้
บ้าน คือที่อยู่รวมกันกับผู้อาศัย ความแตกต่างขึ้นอยู่กับผู้อาศัยแต่ละประเภท เพราะลูกค้าเป็นผู้กำหนดขั้นตอนการออกแบบพื้นที่และความต้องการต่างๆ สถาปนิกสร้างสรรค์ที่ว่างออกมาจากพื้นที่ที่ต้องการเหล่านี้ บ้านเช่นนี้ออกแบบเพื่อครอบครัวหนึ่งโดยเฉพาะ ถ้าจะให้สะท้อนความจริงในรูปทรง การออกแบบต้องตอบสนองคุณลักษณะที่ดีต่อครอบครัวอื่นๆด้วย
About...Schools
โรงเรียน เริ่มต้นจากการที่คนๆหนึ่งอยู่ใต้ต้นไม้ คนซึ่งไม่รู้ว่าตนเองเป็นครู กำลังสนทนาถึงความรู้แจ้งของเขากับคนอื่นอีกสองสามคนซึ่งไม่รู้ว่าเขาเหล่านั้นเป็นนักเรียน เขาเหล่านั้นได้สะท้อนการแลกเปลี่ยนระหว่างกันบนความดีงามที่ปรากฏบนตัวของคนๆนี้ พวกเขาอยากให้ลูกๆได้ฟังคนๆนี้ด้วยกัน และแล้วความต้องการที่ว่างก็ถูกสร้างขั้นเป็นโรงเรียนหลังแรกเกิดขึ้น การก่อตั้งโรงเรียนเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะมันกลายเป็นส่วนหนึ่งในแรงปรารถนาของมนุษย์
About...Schools
ห้องเรียนทั่วไปในโรงเรียนเช่นนี้ ไม่ควรเอาอย่างโรงเรียนทหารธรรมดาๆ แต่ควรมีที่ว่างที่หลากหลาย สำหรับความคิดที่มหัศจรรย์ในจิตวิญญาณของคนอยู่ใต้ต้นไม้ ที่แต่ละคนสามารถระลึกถึงได้ ครูหรือนักเรียนไม่เหมือนกันกับบางคนที่คุ้นเคยกับห้องที่มีเตาผิง หรือมีห้องขนาดสูงใหญ่สำหรับคนอื่นๆ และห้องอาหารต้องอยู่ชั้นใต้ถุนเพราะใช้กันน้อยครั้งด้วยหรือ? ช่วงเวลาพักผ่อนหลังอาหารไม่ควรเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนด้วยหรือ?
Giotto เป็นจิตกรที่ยิ่งใหญ่ เพราะเขาเป็นศิลปินที่วาดท้องฟ้าเป็นสีดำในเวลากลางวัน และวาดนกที่ไม่สามารถบินได้ วาดสุนัขที่ไม่สามารถวิ่งได้ และเขาวาดคนมีขนาดใหญ่โตกว่าประตูทางเข้า จิตกรมีอภิสิทธิ์ในการกระทำสิ่งเหล่านี้ได้ เพราะเขาไม่ต้องให้คำตอบเรื่องแรงดึงดูดของโลกหรือสร้างจินตภาพตามสิ่งซึ่งเรารู้ในชีวิตจริงๆ ในฐานะของจิตกรเขาแสดงออกด้วยการขัดแย้งกับธรรมชาติ เขาสอนเราผ่านสายตาของเขาในเรื่องความขัดแย้งต่อธรรมชาติของมนุษย์ เช่นกัน ปฏิมากรสามารถปั้นและปรับแต่งที่ว่างด้วยวัตถุที่แสดงออกถึงการขัดแย้งกับธรรมชาติ อย่างไรก็ตามสถาปัตยกรรมมีข้อจำกัดในเรื่องนี้ แม้เราสัมผัสข้อจำกัดของกำแพงที่มองไม่เห็นนี้ แต่เราก็ยังรู้มากขึ้นถึงอะไรที่มันห่อหุ้มไว้ จิตกรสามารถวาดล้อของปืนใหญ่เป็นรูปสี่เหลี่ยมเพื่อแสดงออกถึงการต่อต้านสงคราม ปฏิมากรสามารถปั้นแต่งเป็นล้อเหลี่ยมได้เช่นกัน แต่สำหรับสถาปนิกล้อของปืนใหญ่ต้องเป็นวงกลม แม้ว่าจิตกรและปฏิมากรมีบทบาทสำคัญในโลกสถาปัตยกรรม เช่นเดียวกับที่งานสถาปัตยกรรมมีบทบาทสำคัญต่อโลกของจิตกรรมและปฏิมากรรมก็ตาม แต่มันไม่อยู่บนหลักการเดียวกัน อาจบอกได้ว่างานสถาปัตยกรรมเป็นการคิดสร้างที่ว่าง มันไม่ใช่การสนองตอบตามการชี้แนะของลูกค้า แต่เป็นการสร้างสรรค์ที่ว่างเพื่อสนองความรู้สึกถึงความเหมาะสมในการใช้สอย
อาคารที่ยิ่งใหญ่ ในความเห็นของข้าพเจ้า เริ่มขึ้นจากสิ่งที่วัดกันไม่ได้ แล้วสืบต่อไปสู่สิ่งที่วัดได้ในขบวนการออกแบบแต่อีกครั้ง ในตอนสุดท้ายควรกลับกลายเป็นสิ่งที่วัดกันไม่ได้เหมือนเดิม
การออกแบบเป็นการทำสิ่งให้วัดกันได้ จริงๆแล้วในประเด็นนี้ ท่านเป็นเหมือนธรรมชาติทางกายภาพในตัวเอง เพราะทุกสิ่งที่เป็นธรรมชาติทางกายภาพหรือวัตถุนั้นเป็นสิ่งที่วัดกันได้ แม้ว่าขณะนั้นยังวัดไม่ได้ก็ตาม เหมือนเช่นระยะทางระหว่างดวงดาวต่างๆในท้องฟ้าซึ่งเราคาดว่าจะวัดได้หมดในอนาคต
อะไรที่วัดไม่ได้เป็นเรื่องของจิตวิญญาณ จิตแสดงออกทางความรู้สึกและความคิดด้วย ข้าพเจ้าเชื่อว่ามันเป็นสิ่งที่วัดไม่ได้ ข้าพเจ้ารู้สึกว่าจิตวิญญาณของความคงอยู่ในแรงปรารถนาอาจเรียกว่าเป็นธรรมชาติที่บ่งชี้ต่อสิ่งที่มันต้องการจะเป็น ข้าพเจ้าคิดว่า ดอกกุหลาบต้องการจะเป็นดอกกุหลาบเท่านั้น
การวางแผนสำหรับการขยายตัวใหม่ของเมืองจะไม่กระทำกันอย่างเฉยเมยอีกต่อไป แต่จะกลับกลายเป็นเรื่องเร่งด่วนมีความกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา การแยกส่วนของสถาปัตยกรรมสองแบบนี้ สถาปัตยกรรมท่อส่งและสถาปัตยกรรมของกิจกรรมมนุษย์ จะส่งผลการเติบโตที่มีตรรกและมีสถานะภาพที่มั่นคงต่อการพัฒนาเมือง
เช่น คนๆหนึ่งซึ่งข้าพเจ้าเชื่อว่าต้องการบินเหมือนนก หรืออยากว่ายน้ำอย่างปลาและวิ่งได้อย่างกวาง ก็จะสามารถทำได้ ท่านอาจพูดได้ว่า..ใบโคลบเวอร์คือเจ้าเสือชีต้านั่นเอง อะไรๆที่ท่านต้องการ แทนที่จะเป็นการมองในแง่ดีเพียงการแก้ไขเมือง ควรเป็นการจัดระเบียบทางกายภาพเสียใหม่ ทำในสิ่งที่รถยนต์ต้องการ คือสถาปัตยกรรมของการเคลื่อนไหวหรือสถาปัตยกรรมท่อส่ง(รถยนต์) สถาปัตยกรรมนี้จะให้จินตภาพในแง่บวกสำหรับเมืองสมัยใหม่ ซึ่งทำให้จุดเปลี่ยนต่างๆของการสัญจรมีการเชื่อมต่อและสัมพันธ์แก่กันและกัน
About..Conclusion
รูปทรงเกิดจากความประหลาดใจ ความประหลาดใจแยกแขนงมาจากสิ่งที่สัมผัสไม่ได้ ผนวกกับเรื่องราวที่เราถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร ในแง่หนึ่ง ธรรมชาติบันทึกกระบวนสร้างนี้ไว้ อะไรๆที่เกิดขึ้นนั้นจะถูกบันทึกไว้รวมกับว่ามันถูกสร้างขึ้นได้อย่างไร
รูปทรงเกิดจากความประหลาดใจ ความประหลาดใจแยกแขนงมาจากสิ่งที่สัมผัสไม่ได้ ผนวกกับเรื่องราวที่เราถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร ในแง่หนึ่ง ธรรมชาติบันทึกกระบวนสร้างนี้ไว้ อะไรๆที่เกิดขึ้นนั้นจะถูกบันทึกไว้รวมกับว่ามันถูกสร้างขึ้นได้อย่างไร
จะสัมผัสกับบันทึกนี้ได้ก็ด้วยความประหลาดใจ ความประหลาดใจเป็นบ่อเกิดของความรู้ แต่ความรู้ต้องเกี่ยวข้องกับความรู้อื่นๆบนความสัมพันธ์ในรูปของระเบียบในความสอดคล้อง เกี่ยวข้อง และสัมพันธ์กันและกันอย่างไรจึงทำให้สรรพสิ่งปรากฏขึ้น จากความรู้นำไปสู่ระเบียบ ทำให้เรากลับไปสู่ความประหลาดใจที่จะต้องกล่าวว่า "ข้าพเจ้าจะทำให้ความประหลาดใจเกิดขึ้นได้อย่างไร" ...(อาเมน)